วิธีการผลิตขวดแก้ว
แทบทุกผลิตภัณฑ์และแม้แต่เครื่องดื่มมักจะถูกเก็บไว้ในขวดแก้วเสมอ เมื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ขวดเหล่านี้จะแข็งแรงและใช้งานได้นาน ขวดแก้วทำจากส่วนผสมของสารหลายชนิดที่กลายเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ในวันนี้ เราจะมาสำรวจโลกที่น่าสนใจของการผลิตขวดแก้ว
ขวดแก้วเริ่มต้นจากทราย
คุณเคยหยุดและคิดไหม... ว่าขวดแก้วจำเป็นต้องใช้ทราย ซึ่งหมายความว่ามันมาจากชายหาดของเรา?! ทรายซิลิกาใช้ในการผลิตแก้วและขวด นอกจากทรายแล้ว ยังมีวัสดุอื่นๆ เช่น โซดาแอช หินปูน และเศษแก้ว (cullet) ที่ใช้ในการเสริมความแข็งแรงและความทนทานของแก้ว
การผลิตขวดแก้ว
ทรายซิลิกาถูกทำความร้อนจนถึงจุดหลอมเหลว จากนั้นควอตซ์เพิ่มเติม 40-45% จะกลายเป็นของเหลวที่อุณหภูมินี้ คนทำแก้วจะนำส่วนผสมนี้มาใช้กับโซดาแอชและปูนขาว เพื่อให้แก้วมีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้แก้วรีไซเคิลที่เรียกว่า cullet การรีไซเคิลวัตถุดิบดิบช่วยลดต้นทุนการผลิตและความเสียหาย
การสร้างขวดแก้ว
เมื่อพูดถึงขวดแก้ว กระบวนการจากวัตถุดิบดิบ เช่น ทราย โซดาแอช ปูนขาว และ cullet ไปจนถึงการสร้างภาชนะสำหรับเบียร์ มีประวัติยาวนานหลายล้านปี และใครจะเป็นหนูทดลองทางคลินิกของเรา? ส่วนประกอบเหล่านี้จะผ่านกระบวนการตามลำดับ คัดแยก -> ทำความสะอาด -> ผสม -> รวมกัน จากนั้นส่วนผสมจะถูกหลอมในเตาเผาระดับอุณหภูมิสูงถึง 1,700 องศาเซลเซียส เมื่ออยู่ในสถานะหลอมเหลวแล้ว แก้วจะถูกปั้นรูปร่างและตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่ามีความทนทานและใสที่สุดก่อนจะถูกส่งออกไป
ขวดแก้วในชีวิตประจำวันของเรา
ขวดแก้วถูกใช้เป็นที่เก็บของเหลวต่าง ๆ ที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำ เครื่องดื่มนม น้ำผลไม้ โซดา ฯลฯ วัสดุดิบถูกนำเข้าจากทั่วโลกและนำมาประมวลผลในโรงงานแก้ว การรู้จักความลับของการผลิตขวดแก้วทำให้เรารับรู้ว่าขวดเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราอย่างไร
ดังนั้นการออกแบบขวดแก้วจำเป็นต้องใช้โครงสร้างที่ซับซ้อนของวัสดุแต่ละชนิดที่มอบคุณสมบัติเฉพาะเพื่อเพิ่มความทนทาน ความจริงที่ว่าเราเก็บและนำขวดแก้วกลับมาใช้ใหม่ไม่เพียงแค่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งควรจำไว้ว่าขวดแก้วไม่ใช่เพียงฟองอากาศในทรายและน้ำ แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการเตรียมอย่างละเอียดซึ่งใช้วัสดุหลายชนิดในการผลิต
EN
AR
BG
HR
DA
NL
FI
FR
DE
EL
HI
IT
JA
KO
NO
PL
PT
RO
RU
ES
SV
TL
IW
ID
SR
UK
VI
HU
TH
TR
FA
MS
GA
HY
BN
LA
MY
KK
UZ
KY
